การเดินทางข้ามเวลา
มีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดที่เราจะสามารถ เดินทางข้ามเวลา เพื่อไปสู่อดีตหรืออนาคต แล้วถ้าสามารถเดินทางข้ามเวลาได้จริงจะเกิดผลกระทบอะไรตามมา ความรู้และวิทยาการทั้งหมดในสมัยนี้สามารถสร้างเครื่องจักรข้ามกาลเวลาได้ไหม ทั้งหมดนี้ยังคงเป็นเรื่องที่น่าสนใจเลยทีเดียว เพราะหลายคนคงอยากที่จะย้อนเวลากลับ
ไปยังอดีตเพื่อแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาด หรือบางคนอยากเดินทางสู่อนาคตเพื่อที่จะมาดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองในอนาคตข้างหน้า ถ้าการเดินทางข้ามเวลาเกิดขึ้นจริง มีสิ่งหนึ่งที่น่ารู้อย่างยิ่งคือเกิดอะไรขึ้นก่อนการถือกำเกิดจักรวาล (BIGBANG)
เวลาในหลักของฟิสิกส์คือมิติที่
4 เมื่อพูดถึงมิติทั้ง3ในแบบที่เรารู้จักโดยทั่วไปคือ ความกว้าง ความยาว
และความสูงซึ่งวัตถุทุกๆชิ้นบนโลกใบนี้ก็หนีไม่พ้นรูปแบบของ3มิติ รวมทั้งมนุษย์เรา
แต่มีความยาวของอีกประเภทหนึ่งนั้นก็คือ ความยาวของเวลา ในหนังแนว นวนิยายวิทยาศาสตร์หลายเรื่องที่หยิบเรื่องของการเดินทางข้ามเวลา
ในเรื่องมักจะมีเครื่องจักรขนาดใหญ่และมีแหล่งพลังงานที่มาก เมื่อตัวละครเอกเด่นเข้าไปในเครื่องจักรก็จะโผล่อีกด้านหนึ่งของเวลา
ด้วยความอยากรู้ของมนุษย์ไม่มีขีดจำกัด
มนุษย์เราจึงชอบที่จะคิดเรื่องต่างๆที่มักจะเป็นไปไม่ได้
แล้วส่วนใหญ่แล้วในท้ายที่สุดมนุษย์เราก็ทำได้ เช่นมนุษย์เราฝันที่จะบินได้
แล้วท้ายที่สุดมันก็เป็นจริง การเดินทางข้ามเวลาก็เช่นกันเราก็คิดว่าเราทำได้แล้วตอนนี้เราก็ตั้งชื่อให้มันไปแล้วว่า
รูหนอนแห่งการเวลา
ในความเป็นจริงรูหนอนนั้นมีอยู่จริงแต่มันเล็กมากๆจนเราไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า
พวกมันซ้อนตัวอยู่ในกาลอวกาศและทุกๆที่ๆเราอยู่
วัตถุต่างๆบนโลกเราทุกอย่างล้วนไม่เรียบ เวลาก็เช่นกันเวลาเองก็มีรอยร้าวมีรูและช่องว่างอยู่
เมื่อเราเข้าไปดูภายในอะตอมและดูลึกลงไปอีกเราจะอยู่ในโลกของควอนตัม
ซึ่งเป็นที่ๆมีรูหนอนอยู่เป็นอุโมงค์ขนาดจิ๋วที่ตัดผ่านเวลาและอวกาศซึ่งมันจะก่อตัวและหายไปอย่างรวดเร็ว
พวกมันเชื่อมต่อกันระหว่างสถานที่และเวลาที่ต่างกันแต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่อุโมงค์เวลาพวกนี้สามารถคงรูปอยู่ได้เพียง1ในพันล้านล้านล้านล้านล้าน
วินาที (บอกตรงๆตัวเลขเยอะมากเล่นจนมึนหัวฮ่าๆ) และอีกอย่างคือมันเล็กมากๆ
จนเราไม่สามารถเข้าไปได้ ซึ่งในโลกของควอนตัมเอง ช่างมีกฎทางฟิสิกส์ที่น่าประหลาดจริงๆ
แต่ไม่แน่ในโลกอนาคตอีกไม่ไกลอาจมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ที่สามรถขยายรูหนอนพวกนี้ให้ใหญ่กว่าเดิมหลายล้านๆๆๆเท่า และต้องมีพลังบางอย่างคอยต้านแรงบีบอัดของรูหนอน
เราจึงสามารถที่จะรอดอุโมงค์ของกาลเวลาได้
ซึ่งการเดินทางข้ามการเวลาในอานาคตจะเป็นสิ่งสำคัญในการท่องอวกาศ ไปยัฟงสถานที่ต่างๆ
และในเวลาต่างๆในจักรวาล หนึ่งในหนังเรื่องโปรดของผมเรื่อง Startrek ที่ออกฉายในปี 2009 ซึ่งมีอยู่ฉากหนึ่งที่ spok ได้โยน ปฏิสสารลงไปในดาวฤกษ์ที่กำยังจะแตกแล้วพลังงานทั้งสองมหึมาประทะกัน
อีกหนึ่งเป็นพลังงานจากแรงระเบิดอีกอันเป็นปฏิสสาร มันก่อให้เกิดรูของกาลเวลาขนาดใหญ่ที่สามารถเดินทางข้ามการเวลาได้
ถ้าต้องใช้พลังที่มากขนาดนั้นผมว่าคงอีกนานเลยทีเดียวเพราะเมื่อมองเครื่องมือในปัจจุบันสร้างปฏิสสารนั้นยากจริงๆ
ปฏิสสารก็คือสสารตรงกันข้ามกับสสารที่เรารู้จักคือมันจะตรงข้ามทุกอย่างเมื่อปฏิสสารและสสารปกติเจอกันมันจะสร้างพลังงานขนาดมหึมาออกมา
แต่ถึงยังไงถ้าการเดินทางข้ามกาลเวลาเป็นจริงสิ่งที่จะตามมาคือปัญหา
ปัญหาก็มีอยู่ว่า
ถ้าเราย้อนเวลากลับไปยังอดีตแล้วเราไปยิงปู่ของเราในอดีตแล้วเราจะได้เกิดมาไหม
นี้เป็นกฎขัดแย้งกัน ที่นักวิทยาศาสตร์ต่างถกเถียงกัน(ทั้งๆที่ยังสร้างเครื่องtime machineไม่ได้เลยฮ่าๆ) แต่ก็มีนักวิทยาศาสตร์บางคนบอกว่าการเดินทางข้ามเวลา
ไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาต่อสถานะปัจจุบันแต่อย่างใด เพราะโลกในอดีตที่เราย้อยไปนั้นมันก็คืออีกหนึ่งจักรวาลนั้นเอง
ซึ่งนั้นก็ไปสนับสนุนทฤษฏีที่ว่าจักรวาลเรานั้นไม่ได้มีจักรวาลเดียวแต่จักรวาลนั้นมีขนาดเป็นอนันต์
ปฏิสสาร : ภาพถ่ายจากห้องถ่ายภาพเมฆของโพสิตรอนที่สังเกตได้เป็นครั้งแรก
ภาพจาก วิกิพีเดีย
หนึ่งในหลักการง่ายๆทที่จะเดินทางข้ามเวลานั้นก็คือ หลุมดำ
ภาพจำลองรูหนอนอย่างง่าย
หลุมดำคือหนึ่งในปริศนาว่าถ้าเข้าไปแล้วจะไปอยู่ที่ไหน การจะดักจับภาพหลุมดำได้ต้องอาศัยหลักการ เลนส์โน้มถ่วง
ภาพจำลองขณะที่ยานอวกาศกำลังมุ่งสู่อุโมงค์กาลเวลา
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น