มนุษย์ต่างดาว
พวกมัน มีอยู่จริงหรือไม่ แล้วพวกเขาไปอยู่ที่ไหน แต่เมื่อเราลองมองมาที่จักรวาลของเรา ก็จะพบว่ามันช่างกว้างใหญ่อย่างมาก โลกของเราเป็นแค่ดาวเคราะห์ดวงหนึ่งในระบบสุริยะ ที่ประกอบด้วยดาวเคราะห์ทั้ง 8 และเป็นแค่ 1ใน 2พันล้านดวงในดาราจักรทางช้างเผือก และดาราจักรของเราก็เป็นแค่ 1ในแสนล้านดาราจักร ในเอกภพ ที่ถือเกิด
มาจากบิกแบงนักวิทยาศาสตร์ เชื่อกันว่าจักรวาลของเรานั้นมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 93,000 ล้านปีแสง มันใหญ่มากจนเราจินตนาการไม่ถึงเลย และมันใหญ่มากเกินกว่าที่สมองคนเราจะนึกภาพออกมาได้ ถ้าหากมนุษย์ต่างดาวมีจริง แล้วหน้าตาของพวกมันจะเป็นยังไง นี้ก็เป็นอีกหนึ่งคำถามที่เราอยากรู้กันมานาน หน้าตาพวกมันจะเหมือนๆกันกับพวกเราหรือไม่ หรือหน้าตาของพวกมันจะเป็นเหมือนอย่างในในหนังนวนิยายวิทยาศาสตร์ฮอลลีวูด ที่มีหัวโตตาโต และตัวเล็กหรือไหม่ แล้วองค์ประกอบพื้นฐานของเซลล์พวกมันหล่ะ จะแตกต่างจากเราไหม หรือบางทีพวกมันอาจมีชีวิตอยู่ในรูปแบบของชีวจักรกลเหมือนในหนังเรื่อง Transformers หรือพวกมันอาจจะมีชีวิตที่อยู่ในรูปแบบของเหลว หรือจะมีชิวิตอยู่ในรูปแบบพลังงาน ก็เป็นได้
เมื่อพูดถึง มนุษย์ต่างดาว ที่มาเยือนโลก
พวกเรามักจะนึกถึงภาพของสิ่งมีชีวิตทรงปัญญา ที่มาพร้อมกับจานบินและมีอุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัย
แน่นอนถ้าพวกมันสามารถมาเยือนโลกมนุษย์เราได้ งั้นก็แสดงว่าพวกมันต้องฉลาดมากๆอย่างถึงที่สุด
ถ้าไม่อย่างนั้นพวกมันจะสร้างยานอวกาศเพื่อท่องมายังโลกเราได้อย่างไร
เพราะการที่จะสร้างยานลำนึงสำหรับท่องอวกาศ มันต้องอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูง
แต่การท่องอวกาศมันก็มีอุปสรรคอย่างมากต่อการท่องอวกาศเช่นกัน เนื่องจากระยะทางระหว่างดวงดาวนั้น ไกลมาก
ยกตัวอย่างง่ายๆ ระบบดาวฤกษ์ของดาวแคระแดง Proxima Centauri อยู่ห่างจากระบบสุริยะของเราในระยะประมาณ
4.2 ปีแสง
ถ้าพวกเขามาจากที่นั้นพวกเขาจะต้องสร้างยานอวกาศที่มีความเร็วเกือบเท่าแสง
ซึ่งหนึ่งปีแสงคือระยะทางที่แสงเดินทางในอวกาศเป็นเวลา1ปี คือ 9.4607×1012 กิโลเมตร หรือประมาณ9.5ล้านล้าน
กิโลเมตร ยานอวกาศของพวกมันคงต้องใช้เชื้อเพลิงอย่างมากเลยทีเดียวและยังต้องเจอปัญหาเรื่องของกาลเวลาในห้วงอวกาศอีก
ซึ่งด้วยความเร็วเกือบเท่าแสง(ซึ่งตามกฎฟิสิกส์ปัจจุบันได้บอกไว้ว่า
ไม่มีวัตถุมีมวลใดๆที่เคลื่อนที่ได้ไวกว่าแสง) ด้วยความเร็วเฉียดแสงจะทำให้เวลาไม่เท่ากันเมื่อเทียบกับเวลาที่ๆเขาจากมา
นั้นคือพวกเขาเดินทางมาโลกพร้อมๆกับทั้งยังเดินทางข้ามเวลาอีกด้วย
พวกเขาจะมุ่งหน้าไปสู่อนาคต ตามทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอสไนต์ ได้บอกไว้ว่า
เวลามีควาสัมพันธ์กับความเร็ว นั้นก็คือยิ่งมีความเร็วมากเท่าไรเวลาของเราก็จะเดินช้าลง
ดังนั้น มนุษย์ต่างดาว ผู้ทรงปัญญาก็คงรู้ดีถึงกฎข้อนี้
ซึ่งบางทีพวกเขาสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาพวกนี้ได้ โดยพวกเขาใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า
วาร์ป นั้นคือการเดินทางข้ามกาลอวกาศโดยผ่านเส้นทาง wormhole
(รูหนอน)
ซึ่งเป็นทางเชื่อมต่อกัน หรือ สะพานของไอน์สไตน์-โรเซ็น (Einstein-Rosen bridge) รูหนอนเป็น
"ทางลัด" ตัดผ่านไปมาระหว่างกาล-อวกาศ
พวกมันอาจใช้วิธีนี้ในการท่องอวกาศไปได้ทุกที่ โดยไม่ต้องกังวลถึงปัญหาทางฟิสิกส์ของความเร็วและระยะทาง
แล้วถ้าเราอยากรู้ว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริงไหม เราก็ต้องมองย้อนกลับมายังโลกของเรา
โลกของเราเป็นดาวเคราะห์ที่มหัศจรรย์ มีความหลากหลายทางด้านชีวิตอย่างมาก
และที่สำคัญคือโลกของเรามีน้ำ ที่สามรถคงรูปอยู่ได้ในรูปแบบของๆเหลว
เนื่องจากโลกของเราอยู่ในตำแหน่งที่พอเหมาะต่อการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิต
ไม่ไกลห่างจากดวงอาทิตย์เกินไปและไม่ใกล้ดวงอาทิตย์เกินไป เป็นความพอดีที่บังเอิญที่ทำให้เราได้วิวัฒนาการ
จากสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวต่อมาได้พัฒนาจนมากลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความสลับซับซ้อน
จุดกำเนิดของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายคือน้ำ หลายคนคงคุ้นหูดีกับคำว่า น้ำคือชีวิต
เมื่อพูดถึงน้ำเราก็ย้อยมาดูในระบบสุริยะของเรา
มีดาวเคราะห์ดวงใหนบ้างที่พอจะสามารถทำให้น้ำคงรูปได้ เราก็จะพบว่ามีดาวอังคารอีกหนึ่งดวงที่อยู่ในโซนพอเหมาะสำหรับการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิต
นักวิทยาศาสตร์เชื่อกันว่าดาวอังคารเมื่อสมัยหลายพันล้านปีก่อน เคยเป็นที่ๆมีน้ำและมหาสมุทรอยู่
เนื่องจากมีหลักฐานทางภาพถ่ายดาวเทียมจาก NASA ที่แสดงให้เป็นถึงธารน้ำ รวมถึงคลอง
ที่แสดงให้เห็นถึงกิจกรรมของน้ำในอดีต ซึ่งปัจจุบันน้ำพวกนั้นได้แห้งหายไปหมดแล้วเหลือทิ้งไว้แต่หลักฐานทางน้ำ
นักวิทยาศาสตร์ยังคงเชื่อว่าน้ำนั้นไม่ได้หายไปไหนแต่อยู่ที่ใต้พื้นผิวของมัน นั้นบางทีอาจมีสิ่งมีชีวิตซ้อนอยู่ภายใต้ผิวของดาวอังคาร
กราฟิกโมเดลแสดงรูปร่างของมนุษย์ต่างดาว
ภาพจำลองของกลุ่มยานอวกาศที่ต้องอาศัยพลังงานจากแสงอาทิตย์
ดาวอังคาร
โซนที่ในระบบสุริยะ ที่เหมาะสำหรับการดำรงอยู่ของน้ำ ในรูปแสดงดาวอังคารและโลก
ยานสปิริตโรเวอร์ สปิริตโรเวอร์ เป็นยานสำรวจดาวอังคารมีลักษณะคล้ายรถขนาดเล็ก 6 ล้อ สามารถถ่ายภาพพื้นผิวดาวอังคารส่งมายังโลกได้
ภาพถ่ายจากยานสปิริตโรเวอร์ แสดงให้เห็นพื้นผิว
ภาพถ่ายจากยานสปิริตโรเวอร์ แสดงพื้นที่ราบ
รอยล้อของยานสปิริตโรเวอร์
คาบเกลือที่แสดงให้เห็นว่าในอดีตเคยมีมหาสมุทรอยู่
คาบเกลือกินพื้นที่บริเวณกว้าง
ธารน้ำไหลที่แสดงบนพื้นผิวดาวอังคาร
ภาพจำลองสถานียานอวกาศ
กลุ่มยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว เดินทางผ่านรูหนอน
บางทีพวกมนุษย์ต่างดาวเขาอาจมาบุกรุกโลกเพื่อหาแหล่งที่อยู่ใหม่
ภาพแสดงดาราจักรทางช้างเผือก
กลุ่มแสงเล็กๆก็คือ กลุ่มกระจุกดาราจักร ซึ่งดาราจักรทางช้างเผือกเราก็เป็นหนึ่งในนั้น
ภาพแสดงกระดาวฤกษ์ต่างๆ แน่นอนดวงอาทิตย์ของเราก็ด้วย
ภาพจำลองอธิบาย รูหนอน
2 ความคิดเห็น:
ครับคุณ งัพ--
ดี
แสดงความคิดเห็น